the gifted วันปีใหม่ของเหล่าเด็กกิฟต์ - the gifted วันปีใหม่ของเหล่าเด็กกิฟต์ นิยาย the gifted วันปีใหม่ของเหล่าเด็กกิฟต์ : Dek-D.com - Writer

    the gifted วันปีใหม่ของเหล่าเด็กกิฟต์

    เมื่อเขาถูกลืม การแก้แค้นจึงบังเกิด แต่ความสนุกมันพึ่งเริ่มต้น

    ผู้เข้าชมรวม

    390

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    390

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 เม.ย. 62 / 01:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สวัสดีค่ะทุกคน ฮิโตนะจังเองค่ะ
    เรื่องนี้เนี่ยจะต่างกับเรื่องเล็กน้อยคือ...
    สนองนีทตัวเองล้วนๆ + ร่วมeventปีใหม่ของกลุ่มนักเขียนด้วยค่ะ(รีอัพนะ)
    คือ เราพึ่งดู the gifted ช่องone จบพอดีกับตอนมีกิจนี้เลยจัดเลยคะ
    ก็เรื่องนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เราดูตั้งแต่ต้นจนจบและติดมาก 
    ติดตั้งแต่เป็นนิยายแล้วนะ(ไม่นับหนังของนิเทศจุฬานะ)
    เลยขอให้อยู่หมวดแฟนฟิคนิยายแทนแฟนตาซีนะคะ
    เอาหละ ได้เวลาร่ายคาถาประจำตัวเเล้ว
    ขอเชิญทุกท่านสู่โลกใบใหม่ของข้า
    ขอให้โชคดี

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ผมชื่อ”แปง”หรือนายปวเรศ อดีตหัวหน้าห้องกิฟต์ผู้ต่อต้านวิธีการของผอ.จนถูกตัดชื่อออกจากห้องกิฟต์ ตอนนี้ผมก็มาอยู่ตรงหน้าห้องกิฟต์ ถ้าอยากถามว่า”ไม่ได้เป็นเด็กกิฟต์แล้ว ทำไมยังต้องมาห้องนี้อยู่ละ”ก็คงต้องบอกว่า ใช่ครับผมไม่ใช่เด็กกิฟต์แล้วแต่ผมยังมีพลังพิเศษอยู่เลยโดนบังคับให้มาเรียนด้วยเฉยๆ มันก็ดีนะผมจะได้มีโอกาสพัฒนาพลังให้สู้ท่านผอ.ได้ อย่างน้อยผมก็รู้แล้วว่าพลังของท่านผอ.ทำอะไรผมไม่ได้ แสดงว่าเขาไม่มีทางลบพลังของผมได้ตลอดกาล แต่ก็กลายเป็นว่าพลังของผมก็ทำอะไรเขาไม่ได้เหมือนกัน ในเมื่อเราทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ ก็ต้องขอความร่วมมือจากพวกเพื่อนห้องกิฟต์โดยเฉพาะไอ้เวฟ พวกเราทั้งหมดเป็นเพื่อนที่รักกันมาก แต่ผมจะเคืองพวกมันก็เพราะว่า....มันไม่ยอมชวนผมไปงานเลี้ยงปีใหม่น่ะสิ เพราะ
      อย่างนั้นแหละการแก้แค้นของผมจึงได้เริ่มต้นขึ้น...
      เรื่องมันเริ่มตั้งแต่วันนั้นวันที่ผมไปที่ห้องของกร 
      “คืนนี้ก็ขอฝากด้วยนะแปง”กรนั่งอยู่บนเตียง พลางขอให้ผมใช้พลังลบล้างผลข้างเคียงของพลังของเขา เพราะว่ามันทำให้เขานอนไม่หลับ หรือก็คือเป็นพลังที่ทำให้ไม่ต้องนอนก็มีแรงได้ทั้งวันแต่มันกลับกลายเป็นผลร้ายมากดีซะงั้น
      กรค่อยๆเอนตัวลงนอนลงบนเตียงนุ่มๆก่อนที่ผมจะจับที่ข้อมือของกร
      ตึก....ตึก....ตึก....
      “จงหลับซะ”ทันใดนั้นตาของกรก็หลับลงอย่างฉับพลัน
      ตามมาด้วยเสียงกรมของเขาที่แสดงได้ว่าเขาได้หลับไปแล้ว
      “หลับให้สบายนะกร เดี๋ยวตอนเช้ากูจะมาปลุก”ผมกระชิบที่ข้างหูของกรอย่างแผ่วเบา ก่อนจะวางมือของกรลงบนตัวเขาแล้วเอาผ้าห่มมาห่มตัวเขาให้เรียบร้อย(ทำไมไม่จับกดวะไอ้แปง:คนเขียน)ก่อนที่ผมจะหันหลังเตรียมตัวจะกลับห้องนั้นเอง
      “เอ๋!?”สายตาของผมก็ไปสะดุดกับpostit ที่ติดอยู่ที่บอร์ดข้างประตู ทั้งๆที่ปกติกรจะไม่ค่อยเอาpostitมาติดสักเท่าไร ส่วนมักเป็นรูปภาพของพวกเราที่เขาเป็นคนถ่ายเอง(กรอยู่ชมรมถ่ายภาพ) ผมค่อยๆพาตัวเองไปอ่านข้อความในpostitนั้น
      งานเลี้ยงปีใหม่ คลาสกิฟต์
      บนดาดฟ้าโรงเรียน
      วันที่ 31 ธันวา 61
      งานเลี้ยงของคลาสกิฟต์ วันพรุ่งนี้งั้นเหรอ ทำไมไม่มีใครบอกเลยล่ะ เจ้าพวกนั้นไม่คิดว่ากูเป็นเด็กกิฟต์สินะ ได๊....ถ้าพวกมันต้องการแบบนี้ กูก็จะตามไปพังงานแม่งเลย แต่พังแบบปกติก็ไม่ใช่กูสิ กูแปงผู้นำการต่อต้านผอ.นะเว้ย! 
      ผมเดินออกจากห้องของกรก็พบกับไอ้โอม มันคอยช่วยผมเดินทางจากห้องมาที่นี่ พลังของมันคือล่องหน มันเนี่ยแหละที่ช่วยให้ผมหลบอาจารย์มาห้องกิฟต์ได้ทุกวัน มันเป็นเพื่อนสนิทคนนึงของผมเลยละ แต่ทว่าคราวนี้ผมเนี่ยหละจะใช้มันเป็นเครื่องมือการล้างแค้นครั้งนี้
      “ไปกันเถอะแปง”โอมแตะตัวผมก่อนที่จะพาเราทั้งคู่หายตัวwindwalkกลับห้องของผม ในหัวผมก็เต็มไปแผนต่างๆนานาที่เตรียมรับมือแต่ละคน โดยเฉพาะมนกับปุณ สองคนนี่เนี่ยตัวอันตรายมาก มนมีพละกำลังมหาศาลแถมสารคัดคลั่งของยัยนี่มันมีสารเสพติดผสมอยู่ด้วย ส่วนปุณก็มีพลังก๊อปพลังของคนอื่นแต่รู้สึกจะก๊อปของผมไม่ได้นะ ส่วนเวฟถึงจะน่ากลัวแต่ถ้าไม่มีคอมก็ไม่น่ากลัวเท่าไร มันมีพลังแฮก+ควบคุมอุปกรณ์อิเล็กโทรนิค แค่ต้องระวังไม่ให้มันเห็นผ่านกล้องวงจรปิดก็พอแล้ว(ขานี้มันชอบแอบดูชาวบ้านชาวช่องเขาผ่านการแฮกกล้องวงจรปิด) อีกสี่คนคือแคร์ นำ้ตาล และฝาแฝดแจ็ค-โจ(ตัวประกอบคลาสกิฟต์)พลังพวกเขาไม่สามารถบู๊ได้จึงน่าจะจัดการได้กลุ่มแรกๆ ส่วนกรทิ้งมันหลับไว้แบบนั้นแหละไม่ปลุกแม่งเลย 
      “ถึงแล้วหล่ะแปง กูไปก่อนนะเดี๋ยวจะเช้าซะก่อน”โอมบอก
      “อื้อ..แต้งนะโอมแล้วเจอกัน”ในระหว่างนั้นเอง..
      มือผมก็ไปจับที่ข้อมือข้อโอม
      ตึง...ตึง....ตึง....
      “พรุ่งนี้จงทำให้เด็กกิฟต์ทุกคนเท่าที่แกจะสู้ได้หายไปด้วยพลังของแกซะ”ผมกระชิบที่ข้างหูโอมอย่างแผ่วเบาเช่นเคย มันพยักหน้ารับคำสั่งของผมก่อนที่เขาจะหันกลับไปห้องตัวเองอีกครั้ง ส่วนผมก็กลับเข้าห้องนอนตามปกติ โชคดีที่วันนี้ไอ้น๊อตมันกลับบ้าน เลยไม่มีใครสงสัยหากผมหายไปจากห้อง
      วันต่อมา...
      แฮก...แฮก....แฮก...
      เสียงหอบของเด็กสาวซึ่งวิ่งหนีเด็กหนุ่มซึ่งเดินตามมาอย่างเหม่อลอยอย่างกับร่างไร้วิญญาณ มือข้างหนึ่งของเขายื่นออกมาทางเด็กสาว
      “ชะ..ช่วยด้วย คะ..ใครก็ได้ ชะ..ช่วยด้วย” เด็กสาววิ่งไปตามทางเดินเรื่อยๆพลางร้องขอความช่วยเหลือ หวังให้มีคนมาช่วย แต่ไร้ผลเพราะช่วงนี้เป็นวันหยุดจึงมีคนน้อยมาก แถมเช้ามืดขนาดนี้มันก็ไม่มีใครตื่นอยู่ด้วย ความรีบร้อนพยายามหนีจากเด็กหนุ่มทำให้เธอสะดุดพื้นหินล้มลงกับพื้น เธอพยายามตะกายพาตัวเองหนีต่ออย่างช้าๆแต่ทว่า..
      “อย่านะ แกจะทำอะไรอ่ะ อย่านะ ยะ...อย่า....”เด็กหนุ่มได้เดินเข้าใกล้เด็กสาวเรื่อยๆจนถึงตัว
      หมับ
      “หายไปซะ”สิ้นเสียงอันเอือยเฉื่อยไร้เรี่ยวแรงของเด็กหนุ่มทันใดนั้นร่างของเด็กสาวก็หายไป

      โดยที่ไม่มีใครสังเกตเลยสักนิดเลยว่าในเงามืดไม่ไกลจากนั้นมีร่างบางของเด็กหนุ่มผู้ปิดบังใบหน้าของตนที่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยรอยยิ้มแสยะแย่างเจ้าเหล่ภายใต้ฮูตสีแดงชาด เด็กหนุ่มที่วิ่งไล่เด็กสาวอยู่ตะกี้ค่อยๆเดินมาหาเขาอย่างนิ่งเฉย 
      "คนสุดท้ายแล้วสินะ ขอบใจที่ช่วยนะ"เขาแตะไหล่ของเด็กหนุ่มก่อนจะเอ่ยประโยคสั้นๆ
      ตึง..ตึง...ตึง....
      "จงหายไปซะ จนกว่ากูจะให้สัญญาณ"เด็กหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยก็จะค่อยๆหายไปจากสายตาของเขา
      "เอาหละ"เขาถอดฮูตออกก่อนจะหงายหน้ามองท้องฟ้ายามรุ่งสางให้ใบหน้าของเขาต้องกับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ก่อนจะสูดอากาศยามเช้าให้เต็มปอด เพื่อประกาศสัญญาเห็นการแก้แค้นของเขา
      "ได้เวลา แก้แค้นแล้ว..."แล้วเขาก็หยิบฮูตมาใส่ ก่อนที่จะก้าวเดินไปทางหอพัก เพื่อกลับไปนอนพักที่ห้องตามเดิม

      ตอนเย็น
      "เฮ้ย มีใครเห็นน้ำตาลบ้างไหม"เด็กหนุ่มสวมแว่นนาม เวฟ ตะโกนถามหาเพื่อนร่วมชั้น(คู่จิ้น)ของตน
      "ไม่เห็นเลยวะไอ้เวฟ แล้วแกเห็นแคร์บ้างไหมล่ะ เมื่อวานบอกว่าจะมารับแท้ๆ" ปุณปฎิเสธพลางถามหาแฟน
      “เฮ้ย พวกนายเห็นคู่แฝดกับโอมบ้างไหม”มนวิ่งหน้าตั้งมาตะโกนถามหาเพื่อนอีกสามคน
      “พวกมันก็หายไปด้วยงั้นเหรอ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย”เวฟบ่นพลางเปิดโน๊ตบุ๊ตเครื่องโปรดเพื่อเริ่มงานอดิเรกที่ใครๆก็พากันรังเกียจแต่มีประโยชน์มากที่สุด
      ในเวลาแบบนี้
      “อ้าว เกิดอะไรขึ้นเหรอวะ งั๊ยเครียดกันขนาดนั้นวะเนี่ย”แปงที่เดินเข้ามาในห้องคนสุดท้ายไถ่ถามเพื่อนที่นั่งคิดหาทางตามหาเพื่อนที่หายไป 
      “อ้าว ไอ้แปงเองเหรอ ก็นำ้ตาล แคร์ โอม และก็ฝาแฝดหายไปไหนก็ไม่รู้น่ะสิ แถมไอ้กรก็หลับไม่ตื่นด้วย”เวฟตอบขณะที่สายตาของเขาจดจ้องอยู่ที่หน้าจอ
      “เฮ้ย ตะกี้นี้กูเห็นห้าคนนั้นอยู่ที่ห้องประชุมนะ เนี่ยมันยังขอให้กูมาตามพวกแกอยู่นี่ไง ส่วนกรเห็นเมื่อคืนมันบอกว่าวันนี้อยากนอนยาวน่ะ”แปงตอบ
      “แต่เราไปหาที่ห้องประชุมมาแล้วไม่เห็นมีใครเลยนะ”มนถามด้วยความสงสัย เพราะก่อนหน้านี้ตนไปหาที่นั้นมาก่อนแล้ว
      “เธอคงสังเกตดีๆเองนั้นแหละก็พวกนั้นอยู่ตรงหลังเวทีน่ะ”แปงไขข้อสงสัยเพื่อน
      “รีบไปกันดีกว่าน่า~ กูว่าพวกนั้นมันรอพวกมึงจนรากงอกแล้วมั้ง”แปงพูดต่อพลางเร่งเร้าให้คนอื่นรีบตามตนไป
      “งั้นไปกันดีกว่า”มนลุกขึ้นก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปห้องประชุม
      “จริงด้วยนะ อยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักหน่อย”ปุณแสดงท่าทีเห็นด้วยก่อนจะตามมนไป
      “เวฟไปไหม”แปงถามเวฟ
      “ก็ต้องไปอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”เวฟพูดพลางลุกขึ้นในขณะที่สายตาจับจ้องไปที่หน้าจอที่ฉากภาพของกล้องวงจรปิดของโรงเรียนทุกอันไว้อยู่
      จนกระทั่ง...
      ห๊ะ!?
      เขาอุทานออกมาเมื่อเห็นภาพของโอมในสภาพคล้ายซอมบี้กำลังไล่ตามสี่คนที่หายไป ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหาคนสวมฮูตสีแดงและทำให้ตัวเขาหายไปก่อนในขณะที่ภาพจะเปิดเผยหน้าของชายสวมฮูตอยู่นั้น....
      “มีอะไรเหรอเวฟ”แปงทักหลังจากที่เห็นเวฟนิ่งไปทำให้สายตาเขาผะออกมาจากหน้าจอ 
      “ไม่มีอะไรไปกันเถอะ”แล้วเวฟก็เดินผ่านแปงออกประตูไป โดยลืมเปิดคอมทิ้งไว้
      “เฮ้อ!!เวฟมึงลืมปิดคอมไว้วะ”แปงที่เห็นคอมเปิดอยู่จึงตะโกนถามเพื่อนเลิฟ(เหรอวะ!?)
      “ฝากมึงปิดหน่อยแล้วกัน”เวฟตอบโดยไม่ได้หันกลับมาเลยสักนิด แล้วแปงก็ได้กระทำการปิดคอมและวิ่งตามเวฟไปห้องประชุม

      ณ ห้องประชุม
      “ไม่เห็นมีใครเลยวะ”ปุณที่มาถึงก่อนหน้านี้ทักทั้งสองที่ตามมาทีหลัง
      “แปงนี้มันหมายความว่าไงกันแน่”มณที่พึ่งไปตามหาคนที่เหลือตรงหลังเวทีโผล่ออกมาถามไถ่กับแปงซึ่งตอนนี้ยืมอยู่หน้าประตู
      “ก็หมายความแบบนี้ไง”ทันใดนั้นแปงก็ถอยหลังออกจากประตูไปก่อนเขาจะล็อกประตูใหญ่ซึ่งเป็นทางออกทางเดียว
      เฮ้ย!!
      เวฟกับปุณรีบวิ่งเข้าไปทุบประตูห้องประชุมที่ล็อกไปประตูพยายามให้ประตูเปิด 
      “หลบไป!!”มนลงมาจากเวทีแล้วเธอก็วิ่งจากเวทีมาที่ประตูด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะถีบมันหวังจะพังประตูออกไปให้ได้ ทำให้ประตูไม้บานใหญ่พังลงอย่างง่ายดาย
      “คิดอยู่แล้วว่าแค่นี้คงเอาพวกแกไม่อยู่หรอก”เบื้องหน้าพวกเขาคือชายหนุ่มสวมฮูตสีแดง ยืนเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่อย่างสบายใจ
      “แก...แกเป็นใคร”ปุณถาม
      “แกคือคนที่ทำให้นำ้ตาลกับคนอื่นๆหายไปใช่ไหม”เวฟตอบแทนชายตรงหน้า
      “เปล่าสักหน่อย กูไม่ได้เป็นคนทำให้พวกนั้นหายไปสักหน่อย พวกนั้นทำตัวเองต่างหากละ”
      “อ่อ..สงสัยกูต้องเปลี่ยนคำถามใหม่สินะ มึงน่ะเป็นคนสั่งให้พวกนั้นหายไปใช่ไหมหล่ะ”ชายหนุ่มชะงัดสักครู่ก่อนจะตอบ
      “แกพูดอย่างนี้มีหลักฐานหรือไง”
      “นี่ไง”เวฟโชว์คลิปจากกล้องวงจรปิดที่เขาเชฟมาจะคอมให้ชายตรงหน้า
      “ฮึ ฮึ ฮึ คิดไว้อยู่แล้วสมกับเป็นแกจริงๆเลยวะ งานอดิเรกน่ารังเกียจเหลือเกิน”
      “แต่น่าเสียดายนะ ในนั้นบอกแค่ว่าคนร้ายสวมฮูตสีแดงไม่ใช่รึไง ไม่ใช่ว่ากูต้องเป็นคนร้ายไม่ใช่เหรอ”
      “ไม่หรอกตอนนี้น่ะเป็นวันหยุด คนที่อยู่เลยมีจำนวนน้อยมากจนเหลือแต่แค่พวกเรา”
      “แค่...พวกเรางั้นเหรอ แกคิดว่าแค่พวกเรางั้นเหรอ งั้นแล้วพวกนี้คืออะไรกันละ”จู่ๆก็มีคนสวมฮูตสีแดงจำนวนมากเดินออกมาจากเงามืด ท่าทางของพวกเขาดูโซซัดโซเซอย่างกับเป็นซอมบี้ 
      “พวกมันมาจากไหนเนี่ย เมื่อกี้ไม่เห็นมีนี่น่า”
      “ไปเลย”สิ้นเสียงพวกซอมบี้ฮูตแดงก็พุ่งตัวเข้ามาโจมตีพวกของเวฟ แต่มนก็พุ่งมาป้องกันได้ทันพอดี
      “ตรงนี้ฉันจัดการเองพวกนายรีบตาม มันไปเร็ว”
      “ไปเร็วปุณ”แล้วเวฟก็ดึงมือปุณวิ่งไปอีกทาง
      “คิดว่าจะทำได้เหรอ ปลี๊ด!!”ชายหนุ่มพูดแล้วเป่าปากเรียกให้ซอมบี้อีกกลุ่มมาดักทางของทั้งสองไว้
      “เว้ย!!?มีอีกเหรอ เจ้าพวกนี้มีกันแค่ไหนกันเนี่ย”เวฟอุทานเมื่อเห็นว่าพวกตนถูกล้อมไว้หมดแล้ว
      “ถอยไป!!เวฟ”ปุณบุคลิคนักเลง ดึงตัวเวฟไปไว้หลังตนก่อนที่จะฟาดแข้งใส่พวกซอมบี้อย่างแรงจนมันสลบไป
      “ไหน...ดูหน่อยสิว่าแกเป็นใคร”ปุณเดินเข้าไปหาหนึ่งในซอมบี้ที่สลบอยู่พลางเปิดฮูตออกมา ปรากฎว่า...
      “นี่มัน!!พวกชมรมศิลปะการต่อสู้เนี่ยนา”
      “ว่าไงนะ!เจ้าพวกนั่นควรกลับบ้านไปแล้วไม่ใช่รึไง”
      “ถามกูแล้วกูจะถามใครวะ ตอนนี้ช่วยกูสู้พวกนี้ก่อน”
      “มึงลืมหรือไงว่ากูสู้พวกนี้ไม่ได้”
      “ไอ้ชิปหาย หาอะไรฟาดๆพวกมันก็ตายแล้ว”
      “อย่าเอาถึงตายสิฟะไอ้ปุณ”
      "ไม่ถึงตายหรอกไอ้เวฟ แค่บาดเจ็บสาหัสเท่านั้นเอง"
      "มันต่างกันตรงฟะเนี่ย!!"แต่ทว่าในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเถียงกันอยู่นั้น...
      "แต่ช่วยไม่ได้กูก็ต้องเรียกกำลังเสริมบ้างแล้วสินะ"เวฟหยิบมือถือก่อนที่จะเปิดแอพที่เขาเคยใช้ในวันshut downโรงเรียน
      (หมายเหตุ เหตุการ์ณshut downโรงเรียนเป็นเหตุการ์ณที่เวฟปล่อยแอพสั่งให้เด็กปกติทำเควสตามที่สั่งแลกกับว่าจะปล่อยความลับห้องกิฟต์ ซึ่งคำสั่งจะออกแนว ทำลายหอเกียรติยศ ขังพวกคลาสกิฟต์ไว้ในห้องประชุม ภายหลังถูกโอม น้ำตาลและแปงขัดขวางและล้มเลิกไป)
      สิ่งที่เขาพิมพ์ไปคือ "ล่าซอมบี้ทุกตัว"ก่อนที่เขาจะติดตั้งมันให้กับคนที่เคยเข้าร่วมในเหตูการ์ณครั้งนั้นทุกคน
      "เว้ย!!"ซอมบี้ที่สลบไปแล้วก็ดีดตัวเอาขามารัดคอปุณจนเขาล้มลงไป
      "เฮ้อ...สมกับที่เป็นชมรมศิลปะการต่อสู้ เก่งไม่เบาเลยเนี่ย"ปุณที่ตอนนี้โดนค่อนอยู่เริ่มออกแรงอย่างฤทธิ์เพื่อแก้สถานการ์ณตอนนี้
      แฮ่ก-แฮ่ก-–แฮ่ก
      “แบบนี้ค่อยสนุกหน่อย....”
      “เข้ามา!!เดี๋ยวกูจะเล่นให้เละเลย”
      ——————————————————
      ทางด้านชายสวมฮูตแดง
      แฮ่ก...แฮ่ก...
      เสียงหอบของเขาดังไปทั่วบริเวณ ดีที่ว่าตอนนี้พวกซอมบี้ที่เขาเรียกมาช่วยกันทางให้ ทำให้ยังไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เขาวิ่งขึ้นไปที่สถานที่แห่งหนึ่งที่ปัจจุบันกลายเป็นที่ต้องห้ามของนักเรียนที่นี้แล้ว นั้นคือห้องใต้หลังคาตึก 2 ที่ปัจจุบันมันยังมีคอมรุ่นใหม่ล่าสุดที่เวฟเคยขอมาจากครูปอม มันเป็นคอมสี่จอขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดทุกอันในโรงเรียน โดยเขาเน้นไปที่หน้าห้องประชุมที่มีมน ปุณและเวฟกำลังต่อสู้กับพวกซอมบี้ทหารที่เขาเรียกมา โดยในขณะนี้นั้นมนกับปุณกำลังสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนเวฟนั้นก็กำลังกำมือถือของตนอย่างแน่น เหมือนกับว่าเขาลองให้ความหวังที่ใช้มือถือเครื่องนั้นเรียกจะช่วยแก้วิกฤติครั้งนี้ไปได้ 
      ปิ๊บปิ๊บ...ปิ๊บปิ๊บ
      ทันใดนั้นเสียงสัญญาณเตือนจากกล้องหน้าโรงเรียนก็ดังขึ้น
      "ใครฟะเนี่ย"เหมือนเขาเปลี่ยนกล้องไปดูก็พบว่าเป็นร่างของผู้หญิงผู้สวมฮูตสีดำปิดบังใบหน้าที่มือข้างหนึ่งถือมือถือที่เมื่อซูมดูใกล้ๆก็พบว่า
       เควสล่าซอมบี้
      จงล่าซอมบี้ทุกตัวที่ขวางหน้า
      และจับตัวผู้อยู่เบื้องหลัง

      รางวัล:ได้รู้ความลับของเด็กกิฟต์คนหนึ่ง
      ท่านจะยอมรับหรือไม่
      ยอมรับ     ไม่ยอมรับ

      "เควสนั้นมัน..."เขาสะบ่นออกมาเมื่อเห็นว่าแอพที่ตนเห็นนั้นมันช่างแสนคุ้นเคย ก่อนที่จะคิดได้ว่าจะเกิดเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นกับตนอย่างแน่นอน เพราะเขาไม่ได้คิดเผื่อเรื่องนี้ไว้ด้วยเนี่ยสิ แถมถ้าเขาจำไม่ผิดผู้หญิงคนนี้คือหัวโจกที่พาให้นักเรียนเริ่มก่อการจราจลในเหตุการณ์นั้น แถมยังเป็นคนที่ทำให้ครูลัดดาถูกไล่ออกด้วย
      'แล้วไง๊ยัยนั้นถึงอยู่ที่นี่ละ'เขาคิดพลางส่งสัญญาณให้กับโอม
      "จัดการยัยนั้นซะ"
      (หมายเหตุ พลังของแปงถูกพัฒนาให้คนที่ยังอยู่ในการควบคุมสามารถทำตามคำสั่งได้โดยแค่สั่งทางจิตเท่านั้น*เราแต่งมาเสริมเอง มิได้อยู่ในเนื้อเรื่องจริงในชีรีย์*)
      แล้วโอมก็ปรากฎตัวขึ้นก่อนที่เขาจะวิ่งไปประจันหน้ากับหญิงสาว แต่เขาหารู้ไม่ว่านอกจากเธอแล้วยังมีคนที่สวมชุดเหมือนเธออีกจำนวนมาก และจัดการโอมได้อย่างง่ายดายก่อนที่พวกมันจะวิ่งกูมเข้าไปจัดการซอมบี้ไปตามทางอย่างรวดเร็ว
      "นี่มันอะไรฟะ"เขาบ่นออกมาอีกรอบก่อนที่จะนึกถึงคนนึงที่สามารถทำแบบนี้ได้ มันก็มีแค่เขาคนนั้นเท่านั้นแหละที่จะรวมคนจำนวนมากด้วยมือถือ
      "เวฟ---"เขาตะโกนลั่นห้อง นำ้เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น 
      "โธ่เอ๊ย!!แบบนี้ก็เสียแผนหมดสิ พวกที่เหลือก็กำลังสู้กับพวกเวฟอยู่”เขาเรื่อยหน้าจอไปเรื่อยๆเพื่อจะหาทางที่จะโต้กลับกลยุทธ์ของเวฟครั้งนี้ จนกระทั่ง...

      “คิดออกแล้ว”ในที่สุดเขาก็คิดออกและเริ่มทำตามสิ่งที่คิด

      ‘คลายพลังซะ โอม’โอมดีดตัวลุกขึ้นก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเขาก็ค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้า พลางเอามือยื่นมาข้างหน้า เผยให้เห็นร่างของสองสาวและสองหนุ่มที่ถูกมัดไว้กับเสา โดยไม่ทีท่าจะขัดขืนเลยสักนิด ก่อนที่ชายสวมฮูตจะแพลนกล้องไปทางสี่คนนั้น

      ซืม- -ซืม- -

      หน้าจอโปรเจ็คเตอร์ขนาดใหญ่ในห้องประชุมปรากฎภาพของชายสวมฮูตแดง 

      “ฮาโหล ฮาโหล คุณเด็กกิฟต์ทั้งหลาย...”เสียงของเขาดังก้องไปทั่วบริเวณจนทำให้ทั้งสามหันมาด้วยความตกใจ 

      “ผมมีอะไรดีๆมาบอก”ชายหนุ่มกล่าวพลางฉายภาพของนำ้ตาล แคร์ แจ็คและโจที่ถูกมัดอยู่กับเสาตรงทางเดินหน้าตึก

      “ถ้าหากคุณไม่หยุดไอ้แอพบ้าๆนั้น ผมจะทำให้คุณไม่ได้เจอกับพวกเขาอีก”เขากล่าวขู่เตือน

      “นี่น่ะเป็นเกมแค่ของพวกเรา อย่าเอาคนนอกมาเกี่ยวด้วยสิคร้าบ~”เขาเริ่มพูดด้วยนำ้เสียงที่ดูร่าเริง

      “ไม่งั้น ผมคงต้องทำให้พวกเขาหายไปสักคนสองคนหน่อยแล้ว”

      ‘จัดการเลย’เขาส่งโทรจิตส่งไปให้กับโอมซึ่งเขาได้ให้ใช้พลังหายตัวไปก่อนแล้ว และไม่นานหลังจากนั้น...

      “น-นี้มันอะไรฟะเนี่ย”ร่างของกลุ่มที่มาทีหลังก็ค่อยๆหายไปทีละคนทีละคนจนหมดทั้งกลุ่ม 

      “ถ้าพวกแกต้องการจะช่วยคนอื่นแกต้องตามหาผมให้เจอเท่านั้นหละนะ มิฉะนั้น-“ทันใดนั้นภาพก็ตัดไปเป็นภาพของตัวประกันทั้งสี่ที่ตอนนี้เหลือสามคนแล้ว

      “ขอให้โชคดีนะ”แล้วภาพตัดไปเหลือเพียงจอดำ

      “จะทำไงดีฟะไอ้เวฟ”ปุณถามด้วยความร้อนใจ

      “ไม่ต้องเป็นห่วง มันคิดผิดแล้วที่ออกกล้องแบบนั้นน่ะ”

      “มึงหมายความว่าไงฟะ”ปุณงุนงงในคำพูดของเวฟ

      “มีงจำที่ที่กูกบดานวันshutdownโรงเรียนได้ไหมล่ะ”

      “ห้องใต้หลังคาตึก2งั้นเหรอ แต่ที่นั้นถูกผิดตายไปแล้วไม่ใช่รึไง”

      “มันแค่มีเทปสีเหลืองดำปิดทางไว้เฉยๆแต่อย่างอื่นมันยังอยู่ที่เดิม”

      “ก็ตอนนั้นมึงแม่งสั่งของซะใหญ่ขนาดนั้นใครจะไปยกไหวฟะ”

      “ก็นั้นแหละ กูจะไปที่นั้นคุ้มกันกูด้วย”

      “จัดไป เฮ้!!มน”ปุณตะโกนเรียกมน

      “ฝากตรงนี้ด้วยนะเว้ย เดี๋ยวพวกกูจะไปตี๊บไอ้หมอนั้นเอง”เขาทุบหมัดทั้งสองข้างเข้าหากัน ก่อนจะออกวิ่งถีบพวกซอมบี้ให้ล้มไปตามทาง พวกที่หลบตีนปุณพ้นก็ต้องเจอกับนักกีฬาสายต่อสู้อย่างมนจัดการจนสิ้นท่า ทั้งสองช่วยกันเปิดทางให้เวฟวิ่งไปที่ที่เขาคาดว่าจะเจอผู้อยู่เบื้องหลัง ห้องใต้หลังคาตึก2 โดยมีปุณค่อยคุ้มกันให้ตลอดทาง

      แฮ่ก--แฮ่ก--แฮ่ก--

      “หยุดตรงนั้นแหละ!!”ในที่สุดทั้งเวฟและปุณก็มาถึงที่หมายก็พบกับชายหนุ่มในชุดฮูตสีแดงนั่งอยู่ท่ามกลางเครื่องคอมสี่จอ เขาหันกลับมาพลางพูดกวนตีน

      “โอ้!?หาผมเจอจนได้เหรอเนี่ย แล้วจะทำไรล่ะ พวกแกยังไม่รู้เลยไม่ใช่เหรอ วิธีที่จะช่วยพวกเขาอ่ะ”ทันใดนั้นภาพในจอก็ตัดไปที่เพื่อนๆของพวกเขาทั้งสาม ที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่สองแล้ว

      “ไอ้เวรนี่!!!”สิ้นเสียงปุณก็กระโจนเข้าชาร์ตเขาในทันควัน

      “ไหนดูหน่อยสิ”ปุณกระชากฮูตของชายหนุ่มเผยให้เห็นใบหน้าที่พวกเขารู้ดีว่าเป็นใคร

      “แปง!!/ไอ้แปง!!”ทั้งสองตะโกนพร้อมกัน

      “มึงทำบ้าอะไรฟะไอ้แปง ทำไมมึงถึงทำแบบนี้”เวฟเข้าไปสักไซ้ถามถึงเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้

      “ก็คล้ายกับตอนที่มึงแค้นกูตอนสอบกลางภาคที่แล้ว นี่กูก็แค้นพวกมึงที่ไม่ยอมชวนกูไปงานเลี้ยงปีใหม่ไงเล่า”

      ตุบ!

      กำปั้นของปุณลงประทับบนใบหน้าของแปง

      “มึงชกกูทำไมฟะไอ้ปุณ”

      “ข้อหาที่มึงทำกับแฟนกู”

      ตุบ!!

      “มึงก็ด้วยเหรอไอ้เวฟ”

      “ข้อหามึงบังอาจมาใช้คอมกู”

      ตุบ!!!

      “โอ๊ย!!!ข้อหาอะไรอีกห๊า!!”

      “ข้อหาที่แกมาทำกับนำ้ตาล”

      “มึงเป็นแฟนนำ้ตาลรึไงฟะไอ้เวฟ”

      “ก-กูแค่เป็นห่วง น-ในฐานะเพื่อนร่วมชั้นเท่านั้นแหละ”เวฟพูดตะกุตะกักพลางหลบสายตาไปจากแปง

      “เอาเถอะ มึงรีบหยุดพวกซอมบี้ได้แล้ว”เวฟรีบเปลี่ยนประเด็นอย่างร้อนรน

      “ได้!!”

      ครืด--ครืด--

      “จงกลับเป็นปกติซะ”แปงถ่ายทอดพลังของตนผ่านทางลำโพงทั่วโรงเรียน พลางมองเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านกล้องวงจรปิด เป็นภาพที่ทุกคนที่ค่อยๆฟื้นคืนสติก่อนที่จะแสดงความงุนงงเล็กน้อยตามมาด้วยเสียงแห่งความวุ่นวายของพวกเด็กปกติที่ต่างบ่นพลางหาเหตุผลที่พวกตนมาอยู่ที่โรงเรียนตอนวันสิ้นปีแบบนี้

      ทางด้านของโอม

      “นี่เราเป็นไรไปเนี่ย”โอมพูดขึ้นด้วยความงุนงง

      “โอม!!/โอม!!”นำ้ตาลกับแคร์ตะโกนเรียกให้โอมหันมาสนใจพวกตน

      “นำ้ตาล!!แคร์!!ทำไมถูกมัดอยู่ตรงนั้นละ”

      “ก็แกเป็นคนมัดพวกเราไว้ไงเล่าไอ้บ้า”แคร์ตะคอกใส่ด้วยความหงุดหงิด

      “ป-แปปนะ จะแก้มัดให้เดี๋ยวนี้แหละ”

      “เร็วๆเข้าสิย่ะ”แคร์เร่ง

      “ใจเย็นๆสิแคร์”นำ้ตาลเห็นท่าไม่ดีเลยค่อยๆพูดให้แคร์ใจเย็นลง

      “อ่ะ!เสร็จแล้ว”

      “โอม แจ็คกับโจถูกพลังของนายทำให้หายไปน่ะ”

      “โอเค แปปนะ”โอมรวบรวมพลังสักครู่ก่อนจะปรากฎร่างของสองฝาแฝดแถมด้วยพวกแก๊งก่อปฏิวัติที่ถูกทำให้หายไปด้วย แต่ทันใดนั้นเอง...

      พวด!!!!

      “โอม!!!”เลือดกำเดาของโอมไหลออกมาอย่างกับนำ้ตกจนโอมสลบไป 

      “สงสัยจะให้ใช้พลังหนักไปหน่อยนะเนี่ย แฮะๆๆ”แปงที่มองผ่านจออยู่พูดออกพลางนึกขึ้นไว้ทั้งวันนี้เขาใช้พลังบังคับให้โอมใช้พลังทั้งวัน แต่ก็ดีที่ตลอดการควบคุมไม่เกิดผลข้างเคียงเลย

      “ไปกันเถอะ..แปง เวฟ ไปรับพวกนั้นกัน”ปุณที่กลับเป็นบุคลิคเดิมแล้วชวนทั้งสองคนที่อยู่ด้วยกัน ก่อนที่ทั้งสามจะพากันไปหาพวกที่เหลือ

      “อ่ะ!!แปง ตามหาซะให้ทั่วเลย”นำ้ตาลที่เห็นร่างของทั้งสามคนเป็นคนแรกทักแปงก่อนเป็นคนแรก

      “ห๊า!!?ตามหา ตามหากูทำไมอะนำ้ตาล”

      “ก็ตอนแรกอ่ะ เราจะไปชวนนายไปงานเลี้ยงขึ้นปีใหม่กับพวกเรา แต่โดนโอมเล่นงานซะก่อนน่ะสิ”

      “งั้นเหรอ”แปงถึงขั้นเข่าทรุคลงกับพื้นเมื่อรู้ความจริงจากปากของนำ้ตาลว่าความจริงพวกเขาไม่ได้ลืม แค่บอกช้าไปเท่านั้นเอง(เอ๋!?หรือกรลืมจริงๆ)

      “นี่กู...เข้าใจผิดมาโดยตลอดเลยเหรอเนี่ย”หยาดนำ้ตาเม็ดเล็กๆหยดลงบนพื้นแสดงความเสียใจในสิ่งที่ตนทำลงไปทั้งหมด

      “แต่ไหนๆมึงก็มาแล้ว...”เวฟยื่นมือมาให้กับแปง

      “ก็มาร่วมงานเลี้ยงด้วยกันเลยสิไอ้แปง”

      “ใช่ๆมาสิแปง”นำ้ตาลสนับสนุนคำพูดของเวฟ

      “ทุกคน..ขอบใจนะเว้ย”แปงรับมือของเวฟพลางดึงตัวเองขึ้นยืน

      แต่ในระหว่างที่ทั้งหมดจะเดินทางไปจุดจัดงานก็พบกับพวกเด็กปกติที่กำลังค่อยๆออกมาจากตึก

      “แล้ว...จะทำไงกับพวกนี้ดีละเนี่ย”

      “ทุกคนครับ”แปงตะโกนเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ

      “ขอบคุณที่มากันในคืนนี้นะครับ เรามา...ช่วยกันจัดงานเลี้ยงวันขึ้นปีใหม่กันดีกว่านะครับ”สิ้นเสียงของแปงก็ตามมาด้วยเสียงเฮ้ของคนอื่นๆก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายช่วยกันจัดงานเลี้ยงคนละไม้คนมือโดยเปลี่ยนสถานที่จากดาดฟ้าเป็นสนานโรงเรียน จนกระทั่ง...

      23:59น.

      ณ ดาดฟ้า

      แปงกับเวฟที่พากันหลีกหนีความวุ่นวายข้างล่างมาอยู่ข้างบน ซึ่งมันเคยเป็นสถานที่ที่ทั้งคู่ใช้ตอนตกลงจะร่วมมือกันต่อต้าน ผอ. 

      “ครึ่งเทอมแล้วสินะ ตั้งแต่ตอนนั้น”

      “ใช่ตอนนั้นมึงกับกูแม่งไม่กินเส้นกันด้วยช้ำ แต่กลับร่วมมือกันได้ขนาดนั้น”

      “ถ้ามึงไม่ชวนในตอนนั้น กูคงไม่ได้มานั่งสบายอยู่ตรงนี้หรอกนะเว้ยไอ้เวฟ”

      “นี้นี้ มึงเป็นคนแก่หรือไงห๊า!!พูดถึงเรื่องอดีตอยู่ได้”

      “กูว่ามึงนั้นแหละยึดติดกับอดีตจนก่อการปฎิวัติซะวุ่นวายกว่าตอนนี้อีก”

      “จะว่าไปมึงแค่ควบคุมไม่ใช่รึไง ทำไมมันกลายเป็นซอมบี้ได้ละ”

      “มันไม่ได้เป็นซอมบี้แต่คนที่ถูกควบคุมจะเคลื่อนช้าแถมยังโซเซยังกับซอมบี้เท่านั้นเอง”

      “แต่แค่คิดก็สยองนะ น่าเรียกพลังแกว่า..เนโครแมนเชอร์แล้วมั้งนี่”

      “เฮ้ย!!กูบอกแล้วไอ้ว่า...”

      ไม่ทันที่จะพูดจบก็มีเสียง...

      “5 !!!!”เสียงตะโกนนับถอยหลังห้าวิสุดท้ายเริ่มดังขึ้นจากข้างล่าง

      “4!!! 3!!! 2!!! 1!!! สวัสดีปีใหม่!!!!!!!”สิ้นเสียงก็ปรากฎแสงสีเสียงของพลุจำนวนมากถูกจุดยิงขึ้นฟ้าอย่างอลังการด้วยฝีมือของเหล่าเด็กปกติ

      “เฮ้อ..ช่างเถอะ สวัสดีปีใหม่นะเวฟ”

      “อือ..สวัสดีปีใหม่นะแปง”ทั้งคู่กล่าวสวัสดีปีใหม่ให้แก่กันก่อนที่จะ...

      แก๊ก--แก๊ก--

      “อ่ะ!เจอแล้วแปง!!เวฟ!!”เสียงของกลอนประตูก่อนจะเป็นเสียงของนำ้ตาลที่กำลังตามหาทั้งคู่อยู่

      “นำ้ตาล!!”ทั้งคู่ตอบอีกฝ่ายด้วยความตกใจเพราะคิดว่าเธอควรอยู่ข้างล่างกับคนอื่นๆ

      “ก็..”เธอเงียบสักครู่ก่อนที่จะเปิดประตูให้กว้างขึ้นเผยให้เห็นโอม แคร์ ปุณและสองแฝด

      “ทุกคนมาได้ไงเนี่ย..”

      “ก็แผนเดิมของพวกเราคือมาจัดกันที่นี่เนี่ยนา พวกเราก็เลย...”

      “พวกเราก็เลยคิดว่าไหนๆก็ไหนๆก็อยากมาฉลองเล็กกันบนนี่สักหน่อย”ยังไม่ทันที่นำ้ตาลพูดจบโอมก็พูดสิ่งที่เธอตั้งใจจะพูดซะหมดเลย

      ”เป็นความคิดที่ดีแล้วจะฉลองกันยังไงล่ะ”ทันใดนั้นปุณก็กลับเข้าไปในประตูและกลับออกมาพร้อมกับถาดใส่แก้วไวน์ใส่โค๊กจำนวนเก้าใบวางอยู่ เขาแจกแก้วให้กับทุกคน ก่อนที่จะเดินมาล้อมวงเป็นวงกลมและ

      “เอาหละนะ ชัย....”เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าที่เรียบร้อยแล้วแปงก็เริ่มให้สัญญาณ

      “โย!!”หลังการชนแก้วเสร็จสิ้นทุกคนก็ดื่มนำ้จนหมดแก้ว หลังจากนั้นทุกคนก็ร้องรำทำเพลงโดยมีเวฟช่วยเปิดเพลงจะโน๊ตบุ๊ตพกพาของเขา และปุณเล่นดนตรีสดให้ ทุกคนมีความสุขมาก แต่ในตอนนั้นแปงกลับคิดว่า’รู้สึกเหมือนลืมใครบางคนไปแฮะ’แต่เขาก็ตัดความคิดนั้นไปแบบ’ช่างมันเถอะ’แล้วก็ไปสังสรรกับคนอื่นต่อ

      ที่ห้องของกร

      กรก็ยังหลับอยู่บนเตียงอยู่อย่างนั้น....



















      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×